Category Archives: เรียนภาษาอังกฤษกับ English 360 องศา

The + adj.

The + adjective

The + adjective

ในบางครั้ง เวลาที่เราอยากพูดถึงคนที่มีลักษณะเช่นใด เช่น คนรวย คนจน คนขี้ขลาด ก็ใช้โครงสร้าง the + adj. ที่บอกลักษณะนั้นๆ ได้โดยไม่ต้องมี man หรือ people มาต่อท้าย เช่น
The rich (คนรวย)
The poor (คนจน)
The coward (คนขี้ขลาด)

** การใช้ลักษณะเช่นนี้ต้องใช้ article the เท่านั้น และจะใช้เหมือนนามพหูพจน์ค่ะ เพราะเราหมายถึงกลุ่มคน ไม่ใช่คนๆแค่คนเดียว

The rich are not always happy.
คนรวยก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไปหรอก

The honest never tell lie.
คนซื่อสัตย์จะไม่พูดโกหก

** When the going gets tough, the tough get going.
“เมื่อพบอุปสรรค คนที่แข็งแกร่งก็จะพยายามผ่านมันไปให้ได้”

tough ตัวแรก เป็น adj. หมายถึง ยากลำบาก
tough ตัวที่สอง เป็น นาม ( The + tough) หมายถึง คนที่แข็งแกร่ง

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

make something + adj.

make something + adjective

make something + adjective

“You can make it is easier.”
คุณทำให้มันง่ายขึ้นได้

ประโยคด้านบนมีจุดที่ผิดไวยากรณ์อยู่ ทราบมั๊ยคะว่าตรงไหนและมักจะเขียนผิดกันอยู่บ่อยๆด้วยค่ะ

จุดที่ผิดอยู่ตรง is ค่ะ เราจะไม่ใส่ is ในประโยคนี้ เพราะการใช้ make ในความหมายว่า “ทำอะไรให้เป็นอย่างไร” เขียนได้ตามโครงสร้างนี้เลยค่ะ make something + adj
ไม่ต้องเติม verb to be หน้า adj.

  • Although it seems difficult, he can make it possible.
    ถึงแม้ว่ามันจะดูยาก แต่เขาก็สามารถทำให้มันเป็นไปได
  • Your smile makes me happy.
    รอยยิ้มของคุณทำให้ฉันมีความสุข
  • Her teaching style makes the lesson interesting.
    สไตล์การสอนของเธอทำให้บทเรียนดูน่าสนใจขึ้น

** สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมนะคะว่า Practice makes your English perfect. ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

การฝึกซ้อม [rehearsal]

การฝึกซ้อม

วันนี้แอดมินกำลังไปแสดงความยินดีกับน้องที่รับ ปริญญา แต่ถึงแม้วันนี้ไม่ใช่วันรับจริง เป็นแค่วันซ้อมใหญ่แต่ก็ขอไปให้กำลังใจหน่อยแล้วกันค่ะ ^^

ที่เกริ่นมาแบบนี้เพราะอยากให้รู้จักกับศัพท์คำนี้หน่อยค่ะ rehearsal (n.)
คำนี้แปลว่า การฝึกซ้อม ค่ะ จะฝึกซ้อมคอนเสริ์ต ซ้อมละคร ซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลง หรือซ้อมรับปริญญาได้หมดค่ะ

สำหรับคำว่าซ้อมรับปริญญาเราใช้คำว่า commencement rehearsal ค่ะ ส่วนคำอื่นๆ เช่น ซ้อมเต้น ก็คือ dance rehearsal ซ้อมการแสดง ก็คือ performance rehearsal ตามแต่ว่าจะซ้อมอะไร

แต่ถ้าเป็นการซ้อมแบบซ้อมใหญ่เลย แต่งตัวจริง ทำเหมือนวันจริงทุกประการเลย เขาก็จะมีคำเฉพาะอีกค่ะ คือ dress rehearsal เหมือนเวลาซ้อมใหญ่ละครเวทีอะไรแบบนี้ค่ะ แต่งตัวจริง ไฟจริง เอฟเฟกต์จริง เผื่อมีข้อผิดพลาดจะได้แก้ทันไงคะ

rehearsal เป็นคำนามค่ะ ถ้าจะใช้เป็นกริยา เราใช้ rehearse ค่ะ
มาดูตัวอย่างกันสักนิด

She is rehearsing her dance.
เธอกำลังซ้อมเต้น

I have a concert rehearsal today.
ฉันมีซ้อมคอนเสริ์ตวันนี้

***ไปเจอประโยคนี้มา แอดมินชอบมาก เท่ห์ดีค่ะ
“Life is not a dress rehearsal.”
“ชีวิตไม่ใช่การซ้อมใหญ่”

ถ้ามันจะพลาดมันก็พลาดจริงๆ ไม่อาจแก้ไขให้สมบูรณ์แบบได้ในวันแสดงจริง เพราะทุกวันในชีวิตเราคือวันที่ต้องเล่นจริงหมด แต่ถ้าพลาดแล้วถึงแม้จะกลับไปแก้ไขไม่ได็ แต่ก็ใช้เป็นบทเรียนได้ค่ะ ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

สำนวน That’s it!

สำนวน That's it!

# That’s it!

วันนี้เสนอสำนวน that’s it ค่ะ สำนวนนี้ใช้ได้ในหลายๆสถานการณ์นะคะ แปลว่า “พอแล้ว, เท่านี้แหละ, จบแล้ว, แค่นั้น” มาดูตัวอย่างสถานการณ์กันค่ะ

เวลาไปสั่งอาหาร แล้วพนักงานเสริฟถามว่า
Would you like anything else? อยากได้อะไรเพิ่มมั๊ย?
เราก็บอกไปว่า That’s it ได้ค่ะเพื่อบอกว่า “เท่านี้แหละ”

หรือเวลาที่เพื่อนถามว่า วันหยุดยาวไปไหนมาบ้าง
A: What did you do during long weekend, dude?
เห้ย นายทำอะไรช่วงวันหยุดยาวมั่งน่ะ
B: I just stayed at home. that’s it.
ข้าก็อยู่บ้านน่ะสิ แค่นั้นแหละ

A: Tell me! How was your date with P’ Boy?
บอกมาซะดีๆ ไปเดทกับพี่บอยน่ะ เป็นไงมั่ง?
B: We just had dinner together and he drove me home.
เราก็แค่ไปกินข้าวเย็นแล้วเขาก็ขับรถไปส่งชั้นที่บ้าน
A: That’s it?
แค่เนี๊ยะ??
Continue reading

สำนวน rub it in

สำนวน rub it in

# สำนวน rub it in

ปกติคำว่า rub จะแปลว่า นวด, ขัด, ถู แต่พอมาเป็นสำนวน rub it in จะแปลว่า “ซ้ำเติม, เยาะเย้ย, ถากถาง, ตอกย้ำ”
เช่น

I know I shouldn’t have lied to him. Don’t rub it in!
ชั้นรู้ว่าชั้นไม่ควรไปโกหกเขา อย่ามาซ้ำเติมได้ั๊มั๊ยล่ะ

If you wanna rub it in, go ahead.
ถ้าอยากเยาะเย้ยกันนักก็เชิญได้เลย

Stop rubbing it in! You’re getting on my nerves.
หยุดซ้ำเติมซะทีได้มั๊ย แกกำลังทำให้ชั้นประสาทกิน

I know I’m fat. Don’t rub it in!
ชั้นรู้ว่าอ้วน อย่ามาตอกย้ำได้มั๊ย

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

งานล้นมือ ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไร??

งานล้นมือ ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไร??

# งานล้นมือ ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไร??

นอกจากคำว่า busy ที่เราพูดกันจนติดปากแล้วและบางทีก็พูดทับศัพท์กันไปเลย วันนี้มีสำนวนเก๋ๆที่จะบอกว่าเรายุ่งมากๆ งานล้นมือ คือ
have one’s hands full
เช่น

Sorry for standing you up. I had my hands full all day.
โทษนะที่เบี้ยวนัด ผมงานล้นมือทั้งวันเลย

Her maid has resigned, so she has her hands full.
แม่บ้านลาออก เธอเลยยุ่งมากๆ

จะเขียนแบบนี้ก็ได้ค่ะ one’s hands are full. ก็แปลได้เหมือนกันค่ะ
เช่น
His hands are full lately, so he cannot hang out with us this weekend.
ช่วงนี้เขางานยุ่ง สุดสัปดาห์นี้เลยไปเที่ยวกับพวกเราไม่ได้

*** จริงๆโพสนี้แอดมินก็อยากจะบอกว่า I have had my hands full. ช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องจัดการหลายเรื่องด้วยกัน เลยไม่ได้โพสซะหลายวัน ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

I’m gonna hit the sack. Zzzzz

I'm gonna hit the sack.

I’m gonna hit the sack. Zzzzz

ไม่ได้จะบอกว่าจะไปตีถุง ชกกระสอบที่ไหนหรอกค่ะ
แต่แอดมินกำลังจะไปนอนค่ะ ^^

  • Good night, sleep tight, and don’t let the bedbug bites. ^^
  • I’ve got a busy day tomorrow, so I think I’ll hit the sack.

**บางครั้งก็ใช้คำว่า hit the hay แทน ซึ่งมีความหมายเดียวกัน

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

หลงตัวเอง ภาษาอังกฤษพูดว่าไง??

หลงตัวเอง ภาษาอังกฤษพูดว่าไง??

# หลงตัวเอง ภาษาอังกฤษพูดว่าไง??

คำว่า หลงตัวเอง ภาษาอังกฤษใช้คำนี้ค่ะ “be into yourself”
เช่น

You’re so into yourself.
แกนี่มันหลงตัวเองจริงๆเลย

** เราสามารถเปลี่ยน yourself เป็น herself, himself, themselves หรืออื่นๆได้อีก เช่น

Just let it go. She’s kind of into herself.
ปล่อยไปเหอะ เจ้าหล่อนเป็นพวกหลงตัวเองน่ะ

** ยังมีคำอื่นที่พอจะใช้แทนได้ เช่น conceited หรือ arrogant เช่น
Everybody is more or less conceited.
เราทุกคนต่างก็มีอาการหลงตัวเองไม่มากก็น้อย

You’re so arrogant.
เธอนี่มันหยิ่งจองหองซะเหลือเกิน

*** ส่งท้ายด้วยประโยคนี้ค่ะ
“The fragile line between confidence and arrogance is humility.”

NORMAN E. BOWIE & MEG SCHNEIDER

“เส้นบางๆที่กั้นระหว่างความมั่นใจและความหยิ่งยะโสก็คือ ความนอบน้อมถ่อมตน” ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

คุณคิดยังไง??

คุณคิดยังไง??

คุณคิดยังไง What do you think?

เวลาจะถามความเห็นใครสักคน ก็ต้องถามว่า คุณคิดยังไง? ใช่มั๊ยคะ ภาษาอังกฤษใช้ประโยคว่า
What do you think?

คิดเรื่องอะไรก็ใส่ about เข้าไป เช่น

  • What do you think about this?
    คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้
  • What do you think about Thai politics?
    คุณคิดยังไงกับการเมืองไทย?
  • What do you think I should do?
    คุณคิดว่าฉันควรทำไง?

นอกจาก what do you think แล้ว ประโยคอื่นที่ใช้ได้ก็คือ

  • What do you reckon?

(reckon เป็น verb ที่แปลว่า คิดได้เหมือนกันค่ะ)

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

verb to be ใช้ตอนไหน??

verb to be

# verb to be ใช้ตอนไหน??

verb to be

ข้อผิดพลาดของคนไทยในการใช้ภาษาอังกฤษที่เห็นบ่อยมากก็คือ การใช้ verb to be ไม่ถูกต้อง คือ ในประโยคที่ไม่ต้องการ verb to be เรากลับใส่เข้าไปในประโยค

ก่อนอื่นเรามาดูก่อนค่ะว่า ประโยคแบบไหนที่ไม่ต้องการ verb to be

** ประโยคที่อยู่ในโครงสร้าง
S + V1
S + V2
จะไม่เติม verb to be นะคะ เช่น

  • I agree with you.

เราจะไม่เขียนว่า I’m agree with you. เพราะ agree เป็น V1 ประโยคนี้เป็น present simple tense ค่ะ
หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง

  • She took the bus to school.

ประโยคนี้เป็น past simple tense นะคะ เป็นอดีต กริยา took เป็นช่องสอง เราจะไม่เติม is am are หรือ was were ใดๆ ลงไปหน้า took ค่ะ

ทีนี้เรามาดูกันบ้างว่า ประโยคแบบไหนใส่ verb to be ได้บ้าง

* verb to be + Adjective
เช่น

  • We are ready.

* verb to be + Noun
เช่น

  • He is the president.

* verb to be + preposition
เช่น

  • Now, I am on top of the moutain.

Continue reading