Category Archives: เรียนภาษาอังกฤษกับ English 360 องศา

สำนวน butt in

สำนวน butt in

สำนวน butt in

เวลาที่ไม่อยากให้ใครมายุ่งเรื่องของเรา จะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าไงดี?

มีสำนวนนี้ค่ะ butt in แปลว่า จุ้น, สอด, ยุ่งเรื่องของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือแปลว่าขัดจังหวะขึ้นมาระหว่างการ สนทนาหรือการกระทำอย่างหนึ่ง
มาดูตัวอย่างกันค่ะ

  • Stop butting in on my business. It’s so irritating.
    หยุดจุ้นเรื่องของชั้นซะที! มันน่ารำคาญ
  • You shouldn’t butt in on their married life.
    แกไม่ควรจะไปจุ้นเรื่องครอบครัวเขา
  • Sorry for butting in on your talk, but there is an important call from your boss.
    ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะคะ แต่มีโทรศัพท์สำคัญจากเจ้านายคุณค่ะ

** ถ้าจะบอกว่ายุ่งเรื่องอะไร ก็ใส่ on ตามหลังค่ะ เหมือนตัวอย่างข้างบน

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

How have you been? สบายดีมั๊ย

สบายดีมั๊ย
How have you been? สบายดีมั๊ย
How have you been? สบายดีมั๊ย

Good morning, guys!
How have you been?

แอดมินใช้ประโยค How have you been? แทน How are you? ซึ่งมีความหมายคล้ายๆกันคือถามว่าสบายดีมั๊ย
How have you been? ใช้ในกรณีที่เราไม่ได้เจอกันมาสักระยะนึงแล้ว ประมาณว่า ช่วงที่ผ่านมา(ที่เราไม่ได้เจอกัน) เป็นไงบ้าง สบายดีมั๊ย
แต่ถ้าเจอกันปกติบ่อยๆหรือทุกวัน ก็ใช้ How are you? ปกติค่ะ

เวลาตอบก็ตอบได้ว่า

  • I’ve been fine.
  • I’ve been good.

** แต่บางครั้งเวลาไม่ได้เจอใครนานๆ เจออีกทีก็ต้องเม้าท์กันหน่อย
อาจจะเจอประโยคนี้ค่ะ

What have you been up to?
แปลว่า ที่ผ่านมาทำอะไรมั่ง ทำอะไรอยู่
ความหมายคล้ายกับ What are you up to?
คุณกำลังทำอะไร

เวลาตอบก็เช่น

  • I’ve been studying hard.
    ช่วงที่ผ่านมาเรียนหนักเลย
  • I’ve have been working in Sammy’s restaurant.
    ก็ไปทำงานอยู่ที่ร้านของแซมมี่น่ะ

** เรื่องของ Tense ถ้าเราใช้เป็น จะทำให้บทสนทนาของเราได้อรรถรสและมองเห็นภาพได้ชัดขึ้นค่ะ
วันนี้วันศุกร์ Have a good Friday! ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

indifferent มันแปลว่าอะไรกันแน่!!

indifferent มันแปลว่าอะไรกันแน่!!

indifferent มันแปลว่าอะไรกันแน่!!

Indifferent เป็น adjective หลายคนอาจจะคิดว่า indifferent คงแปลว่า ไม่แตกต่าง เพราะมี in อยู่ข้างหน้า มันจึงกลายเป็นคำตรงข้ามของ different แต่!! จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ different เลยค่ะ เพราะ
indifferent แปลว่า “เฉยๆ, ไม่สนใจ, ไม่แยแส, เมินเฉย”


ตัวอย่างเช่น เวลามีคนมาถามคุณว่า คิดว่าเพลงใหม่ของเลดี้ กากา เป็นไง คุณก็อาจจะตอบว่า
I’m indifferent about this.
ก็เฉยๆนะ

He’s indifferent to politics.
เขาไม่สนใจการเมือง

She’s kind of indifferent to others’ suffering.
เจ้าหล่อนเป็นพวกไม่ค่อยจะแยแสกับความทุกข์ยากของคนอื่นเท่าไหร่

ถ้าจะใช้อย่างคำนามก็คือคำว่า indifference เช่น
She showed complete indifference to society.
เธอไม่แคร์สังคมสักนิด

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

คนไทยติดพูดคำว่า what?

คนไทยติดพูดคำว่า what?

# what?

เพื่อนแอดมินชอบมาเล่าให้แอดมินฟังว่า คนไทยติดพูดคำว่า what?
เช่น เวลาที่ฟังฝรั่งพูดไม่เข้าใจ หรือฟังไม่ทันก็จะชอบพูดว่า what? ในความหมายว่า อะไรนะ? เมื่อกี๊ว่าไงนะ? แต่เพื่อนแอดมินบอกว่า มันไม่สุภาพ มันฟังดูห้วน และหยาบ หรือเวลาที่มีใครมาเรียก ก็ชอบตอบรับว่า what? ในความหมายว่า มีอะไรเหรอ?
ซึ่งก็ไม่สุภาพเช่นกันค่ะ

แล้วในสถานการณ์ข้างบน จะพูดยังไงดีล่ะ??

ถ้าฟังไม่ทัน หรือไม่เข้าใจ ก็ให้บอกว่า
Sorry? ส่อหริ๊? หรือ I’m sorry? แอม ส่อหริ๊? ขึ้นเสียงสูงตอนท้ายประโยค คนฟังเขาจะเข้าใจทันทีว่า คุณกำลังฟังเขาไม่รู้เรื่อง หรือใช้คำว่า pardon? ผ่าร์ด๊อน? ก็ได้ค่ะ

ถ้าในกรณีที่มีคนมาเรียกเรา โดยเฉพาะ คนที่อาวุโสกว่า เจ้านาย ครู อาจารย์ อย่าได้ตอบกลับว่า what? เชียวนะคะ ไม่งั้นอนาคตอาจไม่สดใส 5555
ให้เราตอบกลับว่า
yes? เย๊ส?
คะ?/ครับ? มีอะไรเหรอคะ/ครับ?

** แต่คำว่า what? ก็ใช้ได้นะคะในกรณีที่เราแปลกใจ สงสัย หรือตกใจ เช่น เดินอยู่ดีๆ กระถางหล่นลงมาตรงหน้า ก็อุทานออกมาว่า what? ก็คงจะไม่ผิด

** บางคนอาจใช้คำว่า what? ไปโดยสัญชาตญาณ เพราะยังติดคำไทยว่า อะไรนะ? แต่ลองฝึกดูค่ะ เดี๋ยวก็ชิน ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

คุณหนักเท่าไหร่? What is your weight?

คุณหนักเท่าไหร่?

คุณหนักเท่าไหร่?

เรื่องน้ำหนักอาจจะเป็นเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีใครเขาถามกัน แต่บางกรณีก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เวลาไปหาหมอ หรือถามเพื่อเป็นข้อมูลอะไรสักอย่าง
แล้วจะถามยังไงล่ะ??

หลายคนคงมีประโยคนี้ผุดขึ้นมา
How much is your weight?

ผิดถนัดค่ะ!!! เขาไม่ถามกันแบบนี้ค่ะ เขาจะถามว่า

What is your weight?
หรือ
How much do you weigh?

สังเกตคำว่า weight ในประโยคแรกกับ weigh ในประโยคหลังให้ดีนะคะ
มันเป็นคนละคำกันค่ะ ไม่ใช่ว่าเขียนผิด

weight เป็น คำนาม (n.)
weigh เป็น คำกริยา (v.)

เมื่อ weigh เป็นกริยา เวลาอยู่ในประโยคคำถามก็ต้องมีกริยาช่วยเสมอ ในที่นี้คือ do หรือ does
ลองดูตัวอย่างอื่นค่ะ

How much does he weigh?
What is her weight?

* เวลาตอบก็ให้บอกว่า
I weigh 50 Kg.
My weight is 50 Kg.
He weighs 50 Kg.

แต่อย่าลืมนะคะ เรื่องน้ำหนักถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ควรถาม ^^

*** แต่ถ้าจะถามถึงส่วนสูง ก็ถามว่า how tall are you? หรือ what is your height? ก้อได้ค่ะ

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

Which team do you support? คุณเชียร์ทีมไหน?

คุณเชียร์ทีมไหน

Which team do you support?

ช่วงนี้กระแสบอลโลก กำลังมา หลายคนอาจจะเจอคำถามนี้
“เชียร์ทีมไหน?”

Soccer player kicks the ball vigorously at the stadium
Which team do you support?

แต่ถ้าเกิดอยากไปถามฝรั่งว่า เชียร์ทีมไหนก็ถามได้แบบนี้ค่ะ

  • Which team do you support?  เชียร์ทีมไหนล่ะ

หรือ

  • What football team are you cheering for?  แกเชียร์ทีมไหน

หรือ

  • Who are you cheering for?
  • Who do you support?

เวลาตอบก็ ตอบได้แบบนี้ค่ะ

  • I support Italy.  ฉันเชียร์อิตาลี
  • I’m cheering for Brazil.  ฉันเชียร์บราซิล

นอกจากนี้ยังมี

 

  • Who do you barrack for? (barrack แบ๊เร็ค /ˈbarək/ ค่าย)
  • Who do you root for?

** เชียร์ทีมไหนกันคะ?? สำหรับแอดมิน I support the winner team. เชียร์ทีมที่ชนะไง!! 5555 ^__^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

sleep in หมายถึง?

sleep in หมายถึง?

นอนตื่นสาย sleep in

วันศุกร์ทีไร เรึยกได้ว่าเป็นวันสุขของคนทำงานก็ว่าได้ เพราะนั่นหมายความว่า เราจะสามารถ sleep in ได้
เอ๊ะ!!! แปลว่าอะไร?? sleep in หลับใน หรือป่าว?? ถ้าแปลตรงตัวแบบนั้น ผิดดดดอย่างแรงค่ะ เพราะ sleep in แปลว่า “นอนตื่นสาย” ค่ะ
เช่น

Don’t sleep late, or else you’ll sleep in.
อย่านอนดึก ไม่งั้นจะตื่นสาย

I like to sleep in on weekend.
ชั้นชอบนอนตื่นสายในวันหยุด

** เคยมั๊ยคะ?? ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ แต่พอมันดังก็กดปิด แล้วนอนต่อ
แบบนี้เขาเรียก sleep through your alarm clock (นอนทะลุนาฬิกาปลุกเลยค่ะ 5555)
เช่น

I’m sorry. I’m late because I slept through my alarm clock.
โทษทีน่ะ ที่มาสายก็เพราะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ แต่ลุกมาปิดแล้วนอนต่อน่ะ

*** แต่สำหรับแอดมิน ไม่มีคำว่าตื่นสายค่ะ เพราะตื่นบ่าย 55555

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

สำนวน in the pipeline

สำนวน in the pipeline

# สำนวน in the pipeline

ครั้งแรกที่แอดมินเจอสำนวนนี้ปุ๊บ ก็แปลตรงตัวอย่างไร้เดียงสาว่า “ในท่อ” พอมาตอนหลังก็ได้รู้ว่า มันแปลว่า “กำลังดำเนินการ, กำลังเตรียมการ”
เช่น
The new system is in the pipeline.
ระบบใหม่กำลังอยู่ในขั้นดำเนินการ

What’s in the pipeline?
ตอนนี้กำลังเตรียมการทำอะไรอยู่

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

การอ่านวันที่ ในภาษาอังกฤษ (How to say dates in English)

การอ่านวันที่ ในภาษาอังกฤษ

# การอ่านวันที่ ในภาษาอังกฤษ

เวลาเขียนวันที่ จะเขียนได้สองแบบคือ
American English จะเขียน
เดือน / วัน / ปี
แต่ British English จะเขียนเป็น
วัน / เดือน / ปี

เช่น
May 31th 2014 (American English)

31th May 2014 (British English)

วิธีการอ่านวันที่ เราจะอ่านแบบลำดับที่ และต้องมี the นำหน้าเสมอค่ะ วันที่อ่านได้สองแบบคือ อาจจะเอาเดือนขึ้นก่อน หรือวันที่ขึ้นก่อนก็ได้ เช่น

1st June 2014 อ่านว่า
The first of June two thousand fourteen
หรือ
June 1st 2014 อ่านว่า
June the first two thousand fourteen

** ถ้าเอาวันที่ขึ้นก่อนต้องมี of
แต่ถ้าเอาเดือนขึ้นก่อนไม่ต้องมี of

** แถมๆ ^^ วิธีการอ่านปี ค.ศ. ให้เราแยกทีละสองตัว เช่น
1987
อ่านว่า nineteen eighty-seven
แต่ถ้ามี 0 คั่น ให้อ่านว่า โอ เช่น
1905
อ่านว่า nineteen oh five
แต่ถ้าปี 2000 ขึ้นไป ให้อ่านว่า
two thousand แล้วตามด้วยเลขข้างหลัง เช่น
2006
อ่านว่า two thousand six

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

สำนวน Help yourself

สำนวน Help yourself

# สำนวน Help yourself

help yourself ถ้าแปลตรงตัวก็แปลว่า ช่วยเหลือตัวเอง เช่น

All advice in the world will never help you until you help yourself.
คำแนะนำทั้งหมดบนโลกนี้ก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ จนกว่าคุณจะเริ่มช่วยเหลือตัวเองซะก่อน

แต่!! Help yourself ยังใช้เป็นสำนวนได้ด้วย ในกรณีที่เราอนุญาตให้ใครทำบางอย่าง แปลประมาณว่า “ตามสบายเลย, เอาสิ, หยิบไปได้เลย, เอาไปได้เลย” เช่น
“สถานการณ์ที่เวลาที่ไปบ้านคนอื่น แล้วเขายกอาหารมาวางตรงหน้า แล้วเขาบอกว่า help yourself หมายถึง ให้เราหยิบกินได้เลย ตามสบาย ไม่ต้องขออนุญาต”

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

A: Is this seat free? ที่นั่งนี้ว่างมั๊ย
ฺB: Yes, help yourself. ว่างครับ ตามสบายเลย

A: Can I borrow your pen? ยืมปากกาหน่อยสิ
B: Sure, help yourself. ได้สิ เอาไปเลย

** If you find this page useful and want to share, just help yourself. ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา