สำนวน That’s it!

สำนวน That's it!

# That’s it!

วันนี้เสนอสำนวน that’s it ค่ะ สำนวนนี้ใช้ได้ในหลายๆสถานการณ์นะคะ แปลว่า “พอแล้ว, เท่านี้แหละ, จบแล้ว, แค่นั้น” มาดูตัวอย่างสถานการณ์กันค่ะ

เวลาไปสั่งอาหาร แล้วพนักงานเสริฟถามว่า
Would you like anything else? อยากได้อะไรเพิ่มมั๊ย?
เราก็บอกไปว่า That’s it ได้ค่ะเพื่อบอกว่า “เท่านี้แหละ”

หรือเวลาที่เพื่อนถามว่า วันหยุดยาวไปไหนมาบ้าง
A: What did you do during long weekend, dude?
เห้ย นายทำอะไรช่วงวันหยุดยาวมั่งน่ะ
B: I just stayed at home. that’s it.
ข้าก็อยู่บ้านน่ะสิ แค่นั้นแหละ

A: Tell me! How was your date with P’ Boy?
บอกมาซะดีๆ ไปเดทกับพี่บอยน่ะ เป็นไงมั่ง?
B: We just had dinner together and he drove me home.
เราก็แค่ไปกินข้าวเย็นแล้วเขาก็ขับรถไปส่งชั้นที่บ้าน
A: That’s it?
แค่เนี๊ยะ??

หรือพูดเพื่อตัดบทสนทนา จบกิจกรรมบางอย่าง เช่น ประชุมกันอยู่หัวหน้าก็บอกว่า
Well, that’s it. We’ve finished.
เอาละ แค่นี้แหละ เลิกประชุม

That’s it สามารถใช้ในสถานการณ์ที่เราโกรธ หรือไม่อยากทนกับอะไรสักอย่างก็ได้ เช่น

That’s it!! I will not put up with his rudeness any longer.
พอกันที!! ฉันจะไม่ทนกับความหยาบคายของเขาอีกต่อไป

** มีบางคำที่ให้ความหมายคล้ายๆกับ That’s it นั่นก็คือ That’s all และ That’s that ค่ะ
That’s all ก็แปลว่า เท่านี้แหละ, มีแค่นี้แหละ
ส่วน That’s that มักจะพูดในกรณีที่เราต้องการจบบทสนทนา ไม่พูดเรื่องนี้อีก เพราะได้ตัดสินใจไปแล้ว ภาษาวัยรุ่นเค้าพูดว่า “จบนะ, จบป่ะ” ประมาณนั้นแหละ ^^ เช่น

A: Mom, Can I go to the movies tonight?
แม่ คืนนี้ผมไปดูหนังได้มั๊ย
B: No, you’ve gotta go to school tomorrow.
ไม่ได้ ลูกต้องไปโรงเรียนพรุ่งนี้
A: But I promise I will not be back late.
แต่ผมสัญญาว่าจะไม่กลับดึก
B: You can go on Friday or Saturday night, not on a school night. That’s that!
ลูกจะไปคืนวันศุกร์หรือเสาร์ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่วันที่ต้องไปเรียน จบนะ!

** สำนวนลักษณะนี้ ไม่อยากให้จำความหมายตายตัว เพราะบางทีในบางสถานการณ์ก็อาจให้ความหมายอื่นๆได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้ สีหน้า ท่าทาง อารมณ์ ด้วย ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา