ความแตกต่างระหว่าง British and American English
ภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วโลกแตกย่อยสาขาออกเป็น 2 แขนงด้วยกันคือ British English ภาษาอังกฤษแบบอังกิ๊ดอังกิด และ American English ภาษาอังกฤษแบบอเมริกั๊นอเมริกัน แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว คราวนี้ปัญหาก็มาตกอยู่กับคนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างเราๆนั่นแหละค่ะ จะใช้คำไหนดี หรือสับสนคำศัพท์ ความหมายเดียวกันแต่พอไปเจอคนอเมริกันพูดอีกอย่าง เจอคนอังกฤษพูดอีกอย่าง เราก็มึนไปสิคราวนี้
ความแตกต่างระหว่าง British English กับ American English มีหลายด้านดังนี้ค่ะ
1. ความแตกต่างทางด้านคำศัพท์ (Vocabulary) อันนี้เห็นได้ชัดเจนเลย เช่น
British English (BrE) Amrican English (AmE) ความหมาย
flat apartment ห้องพัก
petrol gas น้ำมัน(รถ)
taxi cab รถแท๊กซี่
biscuit cookie ขนมปังกรอบ
sweet dessert ขนมหวาน
lift elevator ลิฟท์
rubber eraser ยางลบ
torch flashlight ไฟฉาย
film movie หนัง
trousers pants กางเกงขายาว
railway railroad ทางรถไฟ
condom rubber ถุงยางอนามัย
underpants shorts กางเกงขาสั้น
lorry truck รถบรรทุก
garden yard สวน
2. ความแตกต่างด้านการสะกดคำ (spelling)
คำศัพท์ที่เป็น British หรือ American English บางคำ ออกเสียงเหมือนกัน มีความหมายเหมือนกัน แต่สะกดต่างกัน ตัวสะกดที่มักเจอบ่อยๆคือ
British English | American English | word |
คำที่ลงท้ายด้วยtre | คำที่ลงท้ายด้วย ter | centre / center theatre / theater |
ลงท้ายด้วย ogue | ลงท้ายด้วย og | analogue / analog catalogue / catalog |
ลงท้ายด้วย our | ลงท้ายด้วย or | colour / color labour / labor |
ลงท้ายด้วย ise | ลงท้ายด้วย ize | analyse / analyze realise / realize |
คำอื่นๆที่สะกดไม่เหมือนกัน เช่น
British English American English
programme program
cheque check
doughnut donut
grey gray
jewellery jewelry
3. ความแตกต่างทางด้านไวยากรณ์ (grammar)
Collective noun หรือนามที่เป็นกลุ่ม ถ้าเป็น American English จะเป็นเอกพจน์เสมอ แต่ถ้าเป็น British English จะเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ ขึ้นอยู่กับความหมายที่ต้องการหมายถึง
3.1 การเขียนวันที่ แบบ American English จะเขียน เดือน / วัน / ปี แต่ถ้าเป็น British English จะเขียนเรียงแบบ The + วันที่ + of + เดือน + ปี
3.2 เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป American English จะใช้ past simple แต่ British English จะนิยมใช้ present perfect มากกว่า
3.3 กริยา 3 ช่อง บางคำใช้ต่างกัน เช่น
British English American English
get / got / got get / got / gotten
smell / smelt / smelt smell / smelled / smelled
lean / leant / leant lean / leaned / leaned
3.4 เวลาเขียนตัวเลขแบบ British Englishจะมี and อยู่หน้าตัวเลขสุดท้ายที่มากกว่า 100 แต่ American Englishไม่มี and
- two thousand and seven. (British English)
- two thousand seven. (American English)
4. ความแตกต่างทางด้านการออกเสียง (pronunciation)
4.1 คำศัพท์หลายคำที่มีตัวอักษร a
ถ้า British English ออกเสียง อา
แต่ถ้าเป็นAmerican English ออกเสียง แอ
เช่น
British English American English
ask อาสค์ ask แอสค์
fast ฟาสท์ fast แฟสท์
can’t ค้านท์ can’t แค้นท์
4.2 คำศัพท์ที่มี ue, ew
ถ้าเป็น British English จะออกเสียง อิวเช่น due ดิว
ถ้าเป็น American English จะออกเสียง อู due ดู
4.3 อักษร t ถ้าอยู่ระหว่างสระหรืออักษร l หรือ r
ถ้าเป็น British English จะออกเสียง ท better เบ้ทเท่อะ
ถ้าเป็น American English จะออกเสียง ด better เบ้ทเด่อะ
4.4 สียง r ที่อยู่ระหว่างตัวอักษรหรือท้ายคำ
ถ้าเป็น British English จะไม่ออกเสียง rpart พาท
ถ้าเป็น American English จะออกเสียง rpart พารฺท
สาเหตุที่เราต้องรู้จักทั้งแบบ American English และ British English เพราะภาษาอังกฤษมีความหลากหลาย เราอาจจะได้ยินได้ฟังในหลายแบบเพื่อจะได้เข้าใจถึงความแตกต่างที่คนอื่นเขาพูดกัน