การใช้ Future perfect tense

Future perfect tense

การใช้ Future perfect tense

Future perfect tense เป็น tense ที่ไม่ค่อยได้เจอสักเท่าไหร่ ถ้าพูดถึง future tense ก็มักจะรู้จักแต่ future simple tense แต่สำหรับ future perfect tense นั้นถึงแม้จะไม่ค่อยได้ขุดมาพูดซักเท่าไหร่ แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย

โครงสร้างของ future perfect tense คือ

Subject + will + have + V3

เช่น

  • She will have studied English course for 1 year next week.
    เธอจะเรียนภาษาอังกฤษมาครบปีนึงแล้วในสัปดาห์หน้านี้

วิธีการใช้ Future perfect tense แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในอนาคต มักมีตัวบอกเวลาในอนาคตกำกับ เช่น

  • I’ll have been ready for our trip at 7 a.m. tomorrow.
    พรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงเช้า ฉันก็คงจะพร้อมสำหรับไปเที่ยวแล้ว

(หมายความว่า พรุ่งนี้เวลาเจ็ดโมง ฉันจะพร้อมออกเดินทางแล้วเพราะเตรียมตัวเสร็จแล้ว ถ้าจะมารับก็มารับเวลานั้นได้เลย)

  • Tomorrow morning, we will have finished our project.
    พรุ่งนี้เช้าเราก็จะทำโครงการของเราเสร็จแล้ว

(หมายความว่า พรุ่งนี้เช้าก็จะเป็นเวลาที่โครงการของเราเสร็จสมบูรณ์พอดี พร้อมส่งมอบ)

  • I think my students won’t have finished their assignments by Friday.
    ฉันคิดว่านักเรียนคงจะยังทำงานไม่เสร็จภายในวันศุกร์แน่

2. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์   เหตุการณ์ที่จะเสร็จสมบูรณ์ในอนาคตใช้ future perfect อีกเหตุการณ์หนึ่งใช้ present simple เช่น

  • The children will have woken up when we arrive.
    เด็กก็คงจะตื่นกันแล้วตอนเราไปถึง
  • I will have finished my call when the train comes.
    ฉันก็คงจะโทรเสร็จไปแล้วตอนที่รถไฟมา

ลองเทียบความแตกต่างระหว่าง future perfect กับ present perfect จากสองประโยคนี้ค่ะ

  • I will have worked here for two years next month.
  • I have worked here for two years.

ประโยคแรกเป็น future perfect หมายถึงว่า ฉันจะทำงานที่นี่ครบสองปีในเดือนหน้า ซึ่ง ณ เวลาที่พูดนั้นยังไม่ครบสองปี
แต่ประโยคที่สองเป็น present perfect หมายถึง ฉันทำงานที่นี่มาสองปีแล้ว ซึ่ง ณ เวลาที่พูดก็ครบสองปีพอดี

และถ้าลองเทียบความแตกต่างระหว่าง future continuous กับ future perfect ลองดูสองประโยคนี้ค่ะ

  • I will be eating breakfast when you arrive.
  • I will have eaten breakfast when you arrive.

ประโยคแรกเป็น future continuous หมายถึง ฉันจะกำลังกินอาหารเช้าอยู่ตอนที่คุณมาถึง ซึ่งถ้าคุณมารับตอนนั้นก็ต้องรอให้ฉันกินข้าวเสร็จก่อน
แต่ประโยคที่สองเป็น future perfect หมายถึง ฉันจะกินข้าวเช้าเสร็จแล้วตอนที่คุณมาถึง นั่นหมายความว่า ถ้าคุณมารับตอนนั้นฉันก็พร้อมออกไปกับคุณได้เลยเพราะกินข้าวเสร็จแล้ว