Direct and Indirect object
ในภาษาอังกฤษจะมีกริยาบางตัวที่มีกรรมได้ 2 ตัว ซึ่งก็คือ กรรมตรง (direct object) และกรรมรอง (Indirect object) กริยาในกลุ่มนี้ตัวอย่างเช่น buy, sell, send, tell, give, write, show, lend, bring, teach, offer, etc.
กรรมตรง หรือ direct object จะเป็น “สิ่งของ” ซึ่งอาจจะเป็นคำนามคำเดียว หรือเป็นกลุ่มคำก็ได้
กรรมรอง หรือ indirect object จะเป็น “คน” ซึ่งได้รับสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่งจากประธาน
ถ้าพูดเฉยๆอาจจะไม่เข้าใจว่าในประโยคจะวางกรรม 2 ตัวนี้ไว้ตรงไหน อะไร ยังไง ลองมาดูตัวอย่างประโยคกันดีกว่าค่ะ
- Laila gave me a present for my birthday.
- Laura told him her secret.
จะเห็นว่า ประโยคแรกมีกริยา gave ตามมาด้วยกรรมรองที่เป็นคนคือ me และกรรมตรงที่เป็นสิ่งของคือ a present และในประโยคที่สอง มีกริยา told โดยมี him เป็นกรรมรองและ her secret เป็นกรรมตรง
ประโยคที่เอากรรมรองขึ้นก่อนสามารถวางกรรมตรงที่เป็นสิ่งของต่อท้ายกรรมรองได้เลย โดยมีโครงสร้างแบบตัวอย่างข้างบนดังนี้คือ
โครงสร้างที่ 1 Subject + Verb + Indirect object + Direct object
แต่ถ้าเกิดอยากเอากรรมตรงที่เป็นสิ่งของขึ้นก่อนต้องเพิ่ม to หรือ for ไปหน้ากรรมรองด้วย โครงสร้างจะเป็นดังนี้ค่ะ
โครงสร้างที่ 2 Subject + Verb + Direct object + to / for + Indirect object
เช่น
- My dad bought a car for me.
- The manager usually sends an e-mail to his employees.
แต่ถึงจะมีโครงสร้างชัดเจนแล้ว ยังไง๊ยังไงก็มีข้อยกเว้นอยู่ดี คือ
**ถ้ากรรมตรงเป็น pronoun ห้ามใช้ โครงสร้างที่ 1 เช่น
I gave my friend it. – แบบนี้ผิดค่ะ ให้ใช้โครงสร้างที่สองแทน คือ
I gave it to my friend. – แบบนี้ถึงจะถูก
** โดยส่วนใหญ่แล้ว โครงสร้างที่ 1 จะใช้กันมาก แต่ถ้าหากกรรมรองมีข้อความมาขยายยาวมากๆ ก็ให้ใช้โครงสร้างที่ 2 เช่น
- The host offered drinks to all the guests in the room.
all the guests in the room เป็นกรรมรองที่มีส่วนขยายยาวมากๆ ให้นำมาไว้ด้านหลังเพราะถ้าวางไว้หลังกริยาเลยจะทำให้สับสนได้
หรือในกรณีที่ต้องการเน้นก็ให้เอากรรมรองมาไว้ด้านหลัง เช่น
- Send the book to Andy, or anyone else you like.