conjunctive adverb
เคยสังเกตมั้ยว่าเวลาที่เราเขียนบทความภาษาอังกฤษ อ่านแล้วมันไม่สละสลวย ฟังดูห้วนๆ นั่นเป็นเพราะเราอาจจะขาดคำเชื่อมข้อความให้มันมีความต่อเนื่องกัน กลุ่มคำที่อาจจะช่วยให้ข้อความของเราอ่านแล้วไม่ขาดตอนคือ conjunctive adverb ซึ่งก็คือ คำกริยาวิเศษณ์ที่ใช้ในการเชื่อมข้อความ โดยมีจุดประสงค์ที่ใช้แตกต่างกันออกไป เช่น บางคำเชื่อมข้อความที่ขัดแย้งกัน บางคำเชื่อมข้อความที่สอดคล้องกัน ส่วนบางคำแสดงความเป็นเหตุเป็นผลกับข้อความก่อนหน้า หรือบางคำแสดงการยกตัวอย่างหรือแสดงลำดับเวลา เป็นต้น ก่อนที่จะไปดูว่า conjunctive adverb แต่ละประเภทมีอะไรบ้าง เราไปดูวิธีการเขียนประโยคที่มี conjunctive adverb กันก่อน ซึ่งสามารถเขียนได้ 3 แบบด้วยกันคือ
- Alan stayed up late last night. Therefore, he went to work late this morning.
- Alan stayed up late last night; therefore, he went to work late this morning.
- Aland stayed up late last night. He, therefore, went to work late this morning.
แบบที่หนึ่ง เรียกได้ว่าแบบคลาสสิค คือใช้ง่ายที่สุด เมื่อจบประโยคแรกแล้ว ประโยคต่อไปก็ขึ้นต้นด้วย therefore แล้วตามด้วย comma แล้วตามด้วยประโยคที่แสดงความเป็นเหตุเป็นผลกับประโยคแรก
แบบที่สองนี่ก็เจอบ่อยเหมือนกันคือไม่ต้องมีการแยกประโยคอะไรให้วุ่นวาย จับมันรวมกันซะเลย แต่ต้องมีตัวช่วยนิดนึงคือ ใส่ semicolon (;) ไว้หน้า therefore แล้วใส่ comma ปิดท้าย แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จกระบวนการ
แบบที่สาม นี่แบบเก๋ๆ คือจบประโยคแรกไปก่อนเหมือนแบบที่หนึ่ง แต่เราทำเก๋ด้วยการเอาประธานขึ้นก่อน แล้วค่อยใส่ therefore ตามหลังมา โดยมี comma คั่นหน้าคั่นหลัง แค่นี้ประโยคก็สุดแสนจะเก๋แล้ว
Conjunctive adverb แต่ละประเภทมีดังนี้ค่ะ
1. ข้อความที่เสริมกันหรือเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดย แปลคล้ายๆกันว่า นอกจากนี้ นอกเหนือจากนี้ เช่น in addition, moreover, furthermore, also, on top of that, above all, besides
The company will be downsizing. Moreover, it will be moved to a new location.
Frank spent most of his life traveling around the world. He, furthermore, has written many books about his experiences.
2. ข้อความที่ขัดแย้งกัน เช่น however, nevertheless, still, yet, nonetheless, in contrast, on the contrary, on the other hand
I studied hard. Still, I didn’t pass the exam.
Your idea is good; however, it’s difficult to implement.
3. ข้อความที่แสดงทางเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น or else, otherwise, if not
We must hurry up. Otherwise, we will miss the train.
It’s good that you attend the competition. Or else, you’ll never have a chance to do it anymore.
4. ข้อความที่แสดงความเป็นเหตุเป็นผลกัน เช่น therefore, thus, accordingly, consequently, as a result, for this reason, then, hence เป็นต้น
Tom is talking on the phone. Thus, he isn’t paying attention to his son.
We had no food left at home; therefore, we went shopping.
5. ข้อความที่แสดงการยกตัวอย่าง เช่น for example, for instance, namely, in particular
You should eat healthy food, namely, brown rice, whole wheat bread, milk, fruits, and vegetables.
6. ข้อความที่พูดซ้ำความเดิมเพื่อให้เกิดความเข้าใจ เช่น in other words, that is to say, that is
The mobile library services have been reorganized to cut costs. That is, they visit fewer places.