Category Archives: ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ

การใช้ prefer, would prefer

การใช้ prefer, would prefer

การใช้ prefer, would prefer

คำว่า prefer/would prefer แปลว่า ชอบมากกว่า  คือ ชอบอะไรมากกว่าอะไร นั่นเอง  ซึ่งก็มีการใช้หลากหลายรูปแบบด้วยกันดังนี้ค่ะ

เริ่มจากรูปแบบการใช้ prefer กันก่อนค่ะ

—-prefer something to something else—-

คือชอบอะไรมากว่าอะไร ตรง something กับ something else เราก็ใส่คำนามลงไป เช่น

  • I preferthis spotted dressto that flowery dress.
    ฉันชอบชุดเดรสลายจุดตัวนี้มากกว่าชุดลายดอกตัวนั้น

—-prefer doing something to doing something else—-

ในที่นี้หมายถึง  ชอบการทำอะไร มากกว่า การทำอะไร  เช่น

  • She prefers walking to taking a cab.
    เธอชอบที่จะเดินมากกว่านั่งแท้กซี่

** สองโครงสร้างด้านบน มีเงื่อนไขนิดนึงว่า หน้า to และหลัง to จะต้องเป็นคำประเภทเดียวกันค่ะ  เช่นถ้าเป็นคำนามก็ต้องเป็นคำนามทั้งสอง หรือถ้าเป็นกริยาก็ต้องเป็นกริยาทั้งสองคำค่ะ

—–prefer to do something rather than(do) something else—–

สังเกตนะคะว่า โครงสร้างนี้ใช้ prefer to   ส่วนที่เชื่อมเราใช้ rather than แทนคำว่า to ค่ะ เช่น Continue reading

จะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร ถ้าอยากบอกว่า “ฉันปวดฉี่”

ปวดฉี่

จะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร ถ้าอยากบอกว่า “ฉันปวดฉี่”  หรือ “ฉันปวดอึ”

เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลยนะคะ เพราะทุกๆวันเราก็ต้องอุจจาระหรือปัสสาวะออกมา ถูกมั้ยคะ  แต่ถ้าเราต้องไปพูดกับชาวต่างชาติ เราจะพูดยังไงดีให้ดูสุภาพ  หรือไม่น่าเกลียดจนเกินไป  เราลองมาดูกันค่ะ

คำที่แปลว่า ปัสสาวะ หรือ อุจจาระ หรือภาษาบ้านๆก็คือ ฉี่ หรือ อึ เนี่ย ภาษาอังกฤษเค้าก็มีหลายคำนะคะ  แต่เราต้องรู้ด้วยว่าคำนี้ใช้ในสถานการณ์แบบไหนได้บ้าง  สุภาพหรือไม่สุภาพ เราลองมาดูคำที่เป็นทางการมากๆก่อนนะคะ  มักจะเจอในโรงพยาบาลหรือการพูดคุยเรื่องสุขภาพ  ถ้าพูดถึงปัสสาวะก็จะใช้คำว่า urine ค่ะ  แต่ถ้าเป็นอุจจาระก็จะใช้คำว่า stool คำนี้แปลว่า “เก้าอี้นั่ง” ก็ได้นะคะ  เพราะฉะนั้นถ้าไปได้ยินคำนี้เราก็ต้องดูบริบทและสถานการณ์ด้วย Continue reading

Being ใช้ยังไง??

Being ใช้ยังไง

Being ใช้ยังไง??

ไปอ่านเจอมาคำนึง คำว่า“The Art of Being Alone”  แปลว่า “ศิลปะของการอยู่คนเดียว”  เจอคำว่า being ในข้อความนี้ก็ให้บังเกิดความสงสัยกับคำว่า being ในประโยคว่าแปลว่าอะไร?  ใช้ยังไง?  เพราะพอไปพึ่งพจนานุกรมก็ช่วยไม่ได้มาก  จริงๆแล้วการจะเข้าใจการใช้คำว่า being ต้องเข้าใจหลักไวยากรณ์อังกฤษค่ะถึงจะรู้ที่มาที่ไปของคำว่า being แบบหมดเปลือก ทะลุปรุโปร่ง   ว่าแล้วก็ตามมาดูกันค่ะว่า  being มันใช้ยังไงกัน

being  มันแปลงร่างมาจาก  be+ingนี่แหละค่ะ  คำถามต่อมาคือ  แล้ว  be คืออะไร??

beก็คือกริยารูปไม่ผันหรือรูป base form ของ verb to be (is, am, are) นั่นแหละค่ะ  ร้องอ๋อยังค่ะ!!  แล้วมันจะกลายร่างเป็น  being ได้ตอนไหนล่ะ??  ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การนำเอากริยามาบวกด้วย ing เนี่ยเขาเรียกว่า gerund ค่ะ  เพื่อทำให้กริยานั้นเป็นคำนาม  เช่น

sleep  —-   sleeping          การนอน

walk  —–    walking          การเดิน

เมื่อเป็นคำนามก็สามารถเป็นประธานหรือกรรมในประโยคได้ใช่มั้ยคะ  ทีนี้บังเอิญว่าเราไปเจอคำว่า being+ adjectiveขึ้นต้นประโยคเป็นประธาน  ในทีนี้จะแปลว่า  “การ……/ความ…..”  อะไรสักอย่างตามความหมายของ adjective ตัวนั้น เช่น Continue reading

That ใช้อย่างไรได้บ้าง

That ใช้อย่างไรได้บ้าง

That ใช้อย่างไรได้บ้าง

วันก่อนอ่านหนังสือแล้วเจอคำว่า that บ่อยมาก  แต่ในแต่ละบริบทนั้น  that กลับให้ความหมายต่างกันซึ่งน่าสนใจมาก  ทุกคนแน่ใจแล้วหรือยังว่ารู้จักคำว่า “that” กันอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วเอาล่ะ!  มาดูสิว่า  that เนี่ยเอาไปใช้อย่างไรได้บ้างในประโยค

—-That แปลว่า นั้น,นั่น—-

ในความหมายนี้เราจะใช้แบบ มีคำนามต่อท้าย หรือไม่มีคำนามต่อท้ายก็ได้ซึ่งใช้กับคำนามหรือแทนคำนามที่เป็นเอกพจน์มีแค่สิ่งเดียว    เช่น

  • That man is very smart.
    ผู้ชายคนนั้นเท่มากๆเลย
  • That is a new policy of the company.
    นั่นเป็นนโยบายใหม่ของบริษัท
  • That was a good trip.
    นั่นเป็นทริปที่ดีมากๆ
  • It’s not like that.
    มันไม่ได้เป็นแบบนั้น

—-That แปลว่า “ขนาดนั้น”ก็ได้นะเออ—- Continue reading

like แปลว่า “ชอบ” อย่างเดียวซะเมื่อไหร่

like แปลว่า “ชอบ” อย่างเดียวซะเมื่อไหร่

like แปลว่า “ชอบ”  อย่างเดียวซะเมื่อไหร่

เดี๋ยวนี้น้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินคำว่า กดlike  คือการกดถูกใจให้กับสิ่งที่ชอบ  บางคนก็ร่ำเรียนภาษาอังกฤษกันมาก็รู้จักคำว่า like ในความหมายว่า “ชอบ”  แต่รู้หรือไม่คะคุณขาว่ามันมีความหมายอย่างอื่นได้เหมือนกันนะคะ

—-likeแปลว่า  ชอบ—-    เป็นคำกริยา (verb)  เพราะฉะนั้นเวลาถามคำถามว่าคุณชอบอะไรถึงต้องใช้กริยาช่วย  do หรือ does ตามแต่ประธาน  เช่น

  • Do you like Thai food?
    คุณชอบอาหารไทยมั้ย
  • Does she like your present?
    เธอชอบของขวัญของคุณมั้ย

—-like  แปลว่า  แบบ/ อย่าง, เหมือน—-    เป็นpreposition ค่ะเช่น Continue reading

ตอบปฏิเสธเป็นภาษาอังกฤษอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ

ตอบปฏิเสธเป็นภาษาอังกฤษอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ

ตอบปฏิเสธเป็นภาษาอังกฤษอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ

เวลาจะพูดปฏิเสธใครแต่ละที  ก็นึกถึงแต่คำว่า  No!  No!  No!  กันใช่มั้ยคะ  เบื่อกันมั้ยแถมใช้มากๆ  ใช้ไม่ดีน้ำเสียงไม่เป๊ะนี่  ฝรั่งเขาอาจจะหาว่าเราพูดห้วนๆได้นะคะ  ลองมาดูกันสิว่า  การตอบปฏิเสธแบบที่คนฟังไม่กล้าโกรธเนี่ยจะใช้ประโยคแบบไหนได้บ้าง จะยกตัวอย่าง 2 สถานการณ์นะคะ  คือ  เวลาที่มีใครชวนไปไหน  และ เวลาที่มีใครมาเสนอให้ความช่วยเหลือเรา

ในสถานการณ์ที่มีใครมาชวนเรา  เอาแบบง่ายๆก่อนเลยนะคะ  เราก็อาจจะพูดว่า  I’m sorry I can’t….หรือ I’m afraid I can’t……ขอโทษนะ   ฉันไปไม่ได้  อะไรก็ว่าไป  เช่น

A: Would you like to have dinner with me tonight?
B: I’m afraid I can’t come tonight. I have to study for exam tomorrow.

หรืออาจจะใช้คำว่า I’m sorry I won’t be able to…….. / I’m afraid I won’t be able to……  ก็ได้ค่ะดูสวยสง่ามีราศีกว่าการใช้แค่คำว่า No!  เป็นไหนๆใช่มั้ยคะ

เอาละ! มาดูต่อสิว่าใช้อะไรได้อีก

เราอาจจะบอกว่า    I’d love to…but….   /  That sounds great, but…..  / 

Thanks for asking, but….ขึ้นต้นประโยคให้ดูดีเข้าไว้ค่ะ  แต่เห็นคำว่า but มั้ยคะ  นั่นแหละค่ะ เราก็ใส่เหตุผลลงไปว่าไปไม่ได้เพราะอะไร  บลา  บลา  บลา  เช่น Continue reading

good กับ well ต่างกันอย่างไร

good กับ well ต่างกันอย่างไร

good กับ well ต่างกันอย่างไร

goodกับ well สองคำนี้ก็แปลว่า  ดี  ทั้งคู่  หลายคนก็เลยถามว่า  แล้วใช้แทนกันได้มั้ย มาดูค่ะว่า good กับ  well ใช้อย่างไร

>>goodเป็น  adjective  เพราะฉะนั้นมันจึงทำหน้าที่ขยายคำนาม  วิธีใช้ก็คือจะวางไว้หลัง verb to be หรือ linking verb  เช่น

  • The show was so good.
    การแสดงดีมากเลย
  • It sounds good.
    ฟังดูดีนะ

หรือวางไว้หน้าคำนามก็ได้เพื่อขยายนามนั้น  เช่น

  • That is a good choice.
    นั่นเป็นตัวเลือกที่ดี
  • You are my good friend.
    เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉันนะ

>>well เป็น adverb  ซึ่งหน้าที่ของมันจะทำหน้าที่ขยายกริยา  เพื่อบอกว่าใครทำกริยานั้นๆอย่างไร  เช่น

  • Last night, you sang well.
    เมื่อคืนคุณร้องเพลงได้เพราะมาก
  • This building has been well designed to conserve energy.
    ตึกนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อประหยัดพลังงาน

และเรามักใช้ well ไปรวมกับคำกริยาแล้วทำให้กลายเป็น adjective ได้ เช่น Continue reading

by แปลได้มากกว่าคำว่า “โดย”

by แปลได้มากกว่าคำว่า “โดย”

by  แปลได้มากกว่าคำว่า “โดย”

ปกติเราจะใช้  by  ในความหมายว่า “โดย”  เพราะเป็นความหมายแรกๆที่เราเรียนกันมา  แต่ถ้าอยากใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมืออาชีพ  เหมือนเจ้าของภาษา  ต้องรู้จัก  by ในความหมายอื่นๆด้วยค่ะ  มาดูกันค่ะว่า by มีความหมายว่าอะไรได้บ้าง

>>by  แปลว่า  โดย   ซึ่งเป็นการบอกวิธีการ  เช่น

  • I get here by bus.
    ฉันมาที่นี่โดยรถเมล์
  • Can I pay by credit card?
    ฉันจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้มั้ย
  • He cut an apple by using a knife on the table.
    เขาหั่นแอปเปิ้ลโดยใช้มีดที่อยู่บนโต๊ะ  (*ในกรณีนี้หลัง by เป็นคำกริยาต้องใส่ ing เพื่อให้เป็นคำนามค่ะ เพราะบุพบทต้องตามด้วยคำนาม)

by ในความหมายนี้  มักจะใช้ในประโยค  passive voice เช่นกันค่ะ  เพื่อบอกว่าทำโดยใคร  เช่น

  • The children were punished by their father.
    เด็กๆ ถูกลงโทษโดยพ่อของพวกเขา

>>ถ้าใช้ by กับเรื่องของเวลา  จะแปลว่า  “ภายใน…”   เช่น

  • You have to hand in your report by this Friday.
    คุณต้องส่งรายงานภายในวันศุกร์นี้
  • The meeting will finish by 5 pm.
    การประชุมจะเสร็จภายใน  5 โมงเย็น

>>ถ้าใช้กับสถานที่ในโครงสร้างประโยค  Verb + by + สถานที่  แปลว่า ผ่าน  เช่น  Continue reading

เจาะลึกการใช้ done แบบเจ้าของภาษา

การใช้ done

เจาะลึกการใช้  done  แบบเจ้าของภาษา

ส่วนใหญ่เราจะรู้จัก  done  ว่าเป็นกริยาช่องที่  3 ของ do แต่คุณขา!! มันเป็นคำคุณศัพท์ได้ด้วยค่ะ แปลเก๋ๆว่า  “(ทำบางอย่าง) เสร็จ หรือ (ใช้บางอย่าง)เสร็จ”  ในความหมายนี้มักจะใช้กับบุพบท with  นะคะ   เช่น

  • I’m done with my dinner.
    ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว
  • Tell me when you’re done with your work.
    บอกฉันละกันตอนที่งานคุณเสร็จแล้ว

การพูดภาษาอังกฤษ  บางครั้งน้ำเสียงที่ใช้ก็สำคัญ  ถ้าน้ำเสียงปกติ  I’m done ก็จะหมายถึงว่า ทำอะไรเสร็จแล้ว  แต่ถ้าน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายหรือรำคาญ  ก็อาจจะแปลว่า “พอแล้ว  ไม่เอาแล้ว”  ก็ได้  เช่น Continue reading

การใช้ would rather

การใช้ would rather

การใช้ would rather

บางครั้งเวลาอ่านๆภาษาอังกฤษเราอาจจะเจอคำว่า …..‘d rather ก็ไม่ต้องสับสนเพราะมันมาจากคำว่า would rather ค่ะ แปลว่า “น่าจะ….ดีกว่า”   หรือแปลว่า “อยากจะ….มากกว่า” มีโครงสร้างในการใช้ดังนี้ค่ะ

1. หากประโยคมีประธานตัวเดียว และพูดถึงปัจจุบันหรืออนาคต มีโครงสร้างประโยคดังนี้

                    ….would rather + V1( ….than )

เช่น

  • I would rather go home with you.
    ฉันน่าจะกลับบ้านกับเธอมากกว่า
  • She would rather listen to her mom.
    เธอน่าจะฟังแม่ของเธอ
  • You look tired, so you would rather sleep than work.
    คุณดูเหนื่อยๆ คุณน่าจะนอนมากกว่ามานั่งทำงาน

2. ถ้าในประโยคมีประธาน 2 ตัว ที่พูดถึงปัจจุบันหรืออนาคต มีโครงสร้างประโยคดังนี้

                    Subject 1 + would rather + subject 2 + V2(…than)

เช่น

  • I would ratheryougo.
    ฉันอยากจะให้คุณไปมากกว่า
  • I would ratherSmithcame here today than tomorrow.
    ฉันอยากจะให้สมิธมาที่นี่วันนี้มากกว่าพรุ่งนี้
  • Your parents would rather you not said anything right now.
    พ่อแม่คุณไม่อยากให้คุณพูดอะไรในตอนนี้

3. ถ้าในประโยคมีประธาน 1 ตัว ที่พูดถึงเรื่องในอดีต มีโครงสร้างประโยคดังนี้

….would rather + have + V3

เช่น

  • I would rather have talked with her in private.
    ฉันอยากจะพูดกับเธอเป็นการส่วนตัวมากกว่า
    (พูดถึงว่า ในอดีตอยากจะพูด แต่ปัจจุบันก็คือยังไม่ได้พูด)
  • Jimmy would rather not have attended the meeting yesterday.
    เมื่อวานจิมมี่ไม่อยากจะเข้าประชุมมากกว่า
    (ในกรณีที่เป็นปฏิเสธให้ใส่ not หน้าhave )

4. ถ้าในประโยคมีประธาน 2 ตัว ที่พูดถึงเรื่องในอดีต มีโครงสร้างประโยคดังนี้

                    …would rather + ประธาน + had + V3

เช่น

  • I would rather my dad had picked me up.
    ฉันอยากให้พ่อมารับฉันมากกว่า
  • David would rather his wife had cooked salmon steak than beef steak.
    เดวิดอยากให้ภรรยาของเขาทำสเต๊กปลาแซลมอนมากกว่าสเต๊กเนื้อ