agent noun คำนามที่แสดงความเป็นผู้กระทำ

agent noun คำนามที่แสดงความเป็นผู้กระทำ

agent noun

ถ้าพูดถึง Agent noun หลายคนอาจจะสงสัยว่าคือศัพท์ใหม่หรือเปล่า แต่จริงๆแล้ว agent noun หมายถึง คำนามที่แสดงความเป็นผู้กระทำ ซึ่งมันก็มีวิธีทำมาจากการที่เราเอาคำกริยามาเติม suffix ให้กลายเป็นคำนามและเป็นคำนามที่หมายถึงผู้กระทำด้วย

กลุ่มของ Suffix ที่เมื่อเติมไปที่คำกริยาแล้ว ทำให้กลายเป็นคำนามที่หมายถึงผู้กระทำกริยานั้นๆ หรือคนที่ทำอาชีพนั้นๆ มีดังนี้ค่ะ

1. – er   (*เติมคำกริยา)

เช่น

play              —–              player           ผู้เล่น
sing              —–              singer            นักร้อง
write             —–              writer           นักเขียน

2.  – or   (*เติมคำกริยา)

เช่น

instruct         —–              instructor                ผู้สั่งสอน
act                —–              actor                       นักแสดง
inspect          —–              inspector                 ผู้ตรวจสอบ
visit              —–              visitor                     ผู้มาเยือน

3. – ist   (*เติมคำนาม)

เช่น

piano            —–              pianist                              นักเปียโน
chemistry      —–              chemist                   นักเคมี
biology         —–              biologist                  นักชีววิทยา

4.  – ian   (*เติมคำนาม)

เช่น

music            —–              musician                 นักดนตรี
politic           —–              politician                 นักการเมือง
library           —–              librarian                  บรรณารักษ์

5. – ant (*เติมคำกริยา)

เช่น

serve            —–              servant                   คนรับใช้
assist            —–              assistant                 ผู้ช่วย
attend          —–              attendant                ผู้ต้อนรับ, ผู้ดูแล

6. – ee

เช่น

employ         —–              employee                ผู้ถูกจ้าง
advise           —–              advisee                   ผู้ได้รับคำแนะนำ
interview      —–              interviewee             ผู้ได้รับการสัมภาษณ์
pay               —–              payee                     ผู้รับเงิน

การที่เรารู้จัก suffix มากเท่าไหร่ก็จะทำให้เราอ่านภาษาอังกฤษได้คล่องมากขึ้นเท่านั้น เพราะ suffix มีเยอะมากและทำให้เกิดเป็นคำใหม่มากมาย