การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ
การบอกเวลาในภาษาอังกฤษมีทั้งแบบง่ายและแบบยากค่ะ ก่อนอื่นก่อนจะไปดูว่าเราจะบอกเวลาอย่างไร เรามาดูคำถามที่ใช้ถามว่า ตอนนี้เวลาเท่าไหร่กันก่อนค่ะ
คำถามเบสิค เลย คือถามว่า What time is it? กี่โมงแล้ว
แต่บางครั้งคุณก็อาจจะได้ยินเขาถามว่า What’s the time?หรือ Do you have the time? หรือ Have you got the time?งงใช่มั้ยล่ะ!! สามประโยคนี้ไม่น่าจะแปลว่า “ตอนนี้เป็นเวลากี่โมง” ได้ใช่มั้ยคะ แต่มันเป็นไปแล้วค่ะ
และในการบอกเวลาก็จะมีช่วงเวลาอยู่ 2 ช่วงด้วยกันเพื่อไม่ให้เกิดสับสนว่า เป็นตอนเช้าหรือตอนเย็น คือ
am ช่วง เที่ยงคืน ถึง เที่ยงวัน
pmคือช่วง เทียงวัน ถึง เที่ยงคืน
คราวนี้มาดูวิธีการตอบบ้าง เริ่มจากแบบง่ายๆก่อน
การบอกเวลาแบบง่าย
วิธีการก็คือให้บอกชั่วโมงก่อน แล้วตามด้วย นาที เช่น
3.30 pm three thirty pm (ทรี – เธอร์ตี้ – พีเอ็ม) บ่ายสามโมงครึ่ง
10.05 am ten oh five (เท็น – โอ – ไฟว์) สิบโมงเช้าห้านาที
** ถ้ามีนาทีเป็นเลขตัวเดียวให้อ่านเลขศูนย์ข้างหน้าเป็น Oh
ง่ายมั้ยคะแบบนี้ บอกเวลาตรงตัวไปเลย
การบอกเวลาแบบยาก
อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแต่มันจะต้องมีการคำนวนนาทีเล็กน้อย ทำยังไงมาดูกันค่ะ
การบอกเวลาแบบนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ
ตั้งแต่นาทีที่ 1 – 30 ฝรั่งจะพูดว่า จะพูดว่า มันคือ………..นาที ผ่าน………….นาฬิกา
(It’s …….past……..)เป็นการบอกว่า ผ่านเวลานั้นมากี่นาทีแล้ว
ตั้งแต่นาทีที่ 31 -59 จะต้องนับถอยหลังว่า มันคือ…………นาที จะถึง………..นาฬิกา
(It’s ……..to………)ถ้าเลย30 นาทีจะเป็นการนับถอยหลังว่าอีกกี่นาทีจะถึงเวลากี่โมง
แต่ถ้าเป็น 15 นาที หรือ 45 นาที ก็จะใช้คำว่า quarter ค่ะ เช่น
11.25 am It’s twenty past eleven. (ผ่านเวลา 11 โมงมา 25 นาที)
5.40 pm It’s twenty to six. (อีก 20 นาทีจะถึง 6 โมง)
3.45 am It’s quarter to four. (อีก 15 นาทีจะถึง 4 โมง)
2.15 pm It’s quarter past two. (ผ่านเวลา 2 โมงมา 15 นาที)
บอกแล้วว่าต้องมีการคำนวณนาทีเล็กน้อย แบบนี้อาจจะดูยุ่งยากซักหน่อย ไม่เหมือนแบบที่พี่ไทยพูดกัน แต่ถ้าพูดบ่อยๆก็จะชินค่ะ
แต่ทั้งสองแบบนี้ถ้าเป็นเวลาที่ไม่มีเศษนาทีให้พูดว่า o’clock ได้เลยค่ะ เช่น
4.00 It’s four o’clock.
จะเลือกใช้แบบไหนก็ลองฝึกกันเลยค่ะ