การละ If ในประโยค If-clause

การละ If ในประโยค If-clause

การละ If  ในประโยค  If-clause

ในประโยคเงื่อนไขหรือประโยค If-clause  ส่วนใหญ่เราก็จะใช้คำว่า  If กันใช่มั้ยคะ  แต่รู้หรือไม่??  บางทีเราก็สามารถละ if คือไม่ใส่ if ในประโยคแต่ให้ความหมายเหมือนกันได้    ปกติแล้วเราจะรู้จัก If-clause 3  แบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการละ if ต่างกันไป ดังนี้ค่ะ

If-clause แบบที่ 1

เป็นการพูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันหรือในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดก็ได้  เช่น

  • If the weather is nice this afternoon, we will go camping.

เราจะใช้ Should แทน  แล้วตัด if ออก

  • Should the weather be nice this afternoon, we will go camping.
    (ในประโยคนี้เปลี่ยน is เป็น be เพราะหลังshould ต้องตามด้วย Verb  รูปธรรมดาไม่ผันค่ะ)
  • If you want to go home, I will give you a ride.
    Should you want to go home, I will give you a ride.
  • If she doesn’t hand in the report on time, I won’t give her any points.
    Should she not hand in the report on time, I won’t give her any points.

** มองๆดูแล้วเหมือนโครงสร้างประโยคคำถามใช่มั้ยคะ  อย่าเผลอไปใส่เครื่องหมาย ? เชียวนะ

If-clause แบบที่ 2

เป็นการพูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน  เช่น

  • If we had a car, we would drive to the beach.

เราใช้ were แทน if ค่ะ

  • Were we to have a car, we would drive to the beach.
  • If she didn’t come here tonight, she wouldn’t meet Rick.
    = Were she not to come here tonight, she wouldn’t meet Rick.
  • If I were rich, I would travel around the world.
    = Were I rich, I would travel around the world.

If-clause แบบที่ 3

พูดถึเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ในอดีต  เช่น

  • If you had left home early, you wouldn’t have missed the train.

เราจะใส่ had แทน if

  • Had you left home early, you wouldn’t have missed the train.
  • If I hadn’t known her, I wouldn’t have got married with her.
    = Had I not known her, I wouldn’t have got married with her.

** ประโยคที่มีการละ if นี้มักใช้ในภาษาเขียน  ไม่นิยมใช้ในภาษาพูดค่ะ  แต่ข้อสำคัญคือมันไม่ใช่ประโยคคำถาม  ถึงแม้โครงสร้าจะเหมือนกับประโยคคำถาม  ดังนั้นไม่ต้องใส่เครื่องหมาย question mark (?) นะคะ