อยากฟังให้คล่อง พูดให้เป๊ะ ต้องรู้จักเสียง schwa สระมหัศจรรย์
หัวข้อคือเสียง schwa sound เป็นเสียงที่พบบ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ แต่เราอาจจะไม่เคยสังเกตหรือไม่เคยสนใจกันมาก่อน เรียกได้ว่าถ้าอยากออกเสียงสำเนียงให้เหมือนเจ้าของภาษาต้องไม่พลาดที่จะรู้จักกับเจ้าเสียง schwa นี้กันนะคะ มันมีประโยชน์มากและยังช่วยในการฟังได้ด้วย เราอาจจะสงสัยว่าทำไมบางทีคำที่เรารู้จักเรากลับฟังไม่ออกก็เพราะเจ้า schwa sound อีกนั่นแหละค่ะ ฟังๆดูก็ถือเป็นตัวสำคัญทีเดียวในการเรียนภาษาอังกฤษ แต่ทำไม๊ทำไมตอนเรียนถึงไม่เคยพบเคยเจอกันเลยน้า
เสียง schwa sound ก็จะเป็นเสียงเหมือน เออะ เบาๆและสั้นมาก ในคำที่มีมากกว่าหนึ่งพยางค์จะมีพยางค์ที่เน้นเสียงหรือมีการ stress เสียง ส่วนพยางค์ที่ไม่เน้นเสียงก็อาจจะออกเป็นเสียง schwa บางพยางค์หรือทุกพยางค์ที่ไม่เน้นเสียง ในทาง phonetics สัญลักษณ์ที่ใช้แทนเสียง schwa คือตัว Ə ลักษณะเหมือน ตัว e กลับหัว
ตัวอย่างเช่นในคำว่า beautiful คนไทยก็มักจะออกเสียงที่ชัดเจนทั้งสามพยางค์เลยคือ บิ๊ว-ตี้-ฟูล โดย stress เสียงตรงตามหลักทุกอย่างคือ stress ที่พยางค์แรกตรง บิ๊ว แต่ฟังยังไงมันก็ยังไม่เหมือนชาวต่างชาติออกเสียงอยู่ดี ก็เพราะพยางค์ที่เหลือที่ไม่ได้ stress เขาใช้เป็นเสียง schwa กันหมดน่ะสิคะ ก็จะออกมาเป็นเสียง บิ๊ว-เทอะ-เฟิล เป็นไงคะ เริ่มฟังเหมือนเจ้าของภาษาเข้ามาบ้างแล้ว ยกตัวอย่างคำอื่นๆกันบ้าง เช่น คำว่า about เขาก็ออกเสียงว่า เออะ-เบ๊าท์ ไม่ใช่ อะ-เบ๊าท์ หรืออย่างคำง่ายๆ คำว่า police เนี่ย พี่ไทยอย่างเราก็ออกเสียงชัดมากว่าเป็น โพ-ลิซ แต่พี่ฝรั่งเขาออกแค่ เพอะ-ลิ้ซ คือ stress ที่พยางค์ที่สอง หรืออย่างคำว่า photographer เราก็มักจะออกเสียงกันเป็น โฟ-โต้-กราฟ-เฟอร์ แต่เอาจริงๆ ฝรั่งเขาจะออกเสียงว่า เฟอะ-โท๊-เกริฟ-เฟอะ คือมีเสียง schwa ถึงสามเสียงด้วยกัน โดยพยางค์ที่สองเป็นพยางค์ที่มีการ stress เสียง และยังมีอีกหลายคำมากๆ ที่ใช้เสียง schwa ในพยางค์ที่ไม่ stress เสียงซึ่งจะทำให้เสียงที่ออกมาไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้ เราเลยฟังฝรั่งพูดไม่เข้าใจ และฝรั่งก็ฟังเราไม่เข้าใจ และทำไมสำเนียงเราถึงไม่เพราะเหมือนชาวต่างชาติ ก็เพราะเจ้าเสียง schwa นี่แหละค่ะ วิธีการที่จะออกเสียงคำได้เหมือนเจ้าของภาษาคือการเช็คเสียง phonetics ในพจนานุกรมจะมีสัญลักษณ์ทาง phonetics กำกับอยู่ แล้วก็จะมีเจ้าเสียง schwa นี่แหละค่ะปรากฏอยู่มากมายเลย พยางค์ไหนที่มีตัว Ə แบบนี้อยู่ คำนั้นก็จะออกเสียงเป็น เออะ หรือผสมกับเสียงพยัญชนะด้านหน้าแล้วแต่ว่าจะเป็นเสียงไหน เช่นคำว่า banana คำนี้ไม่ได้ออกเสียงว่า บาน๊าน่า อย่างที่เราเข้าใจกันนะคะ แต่ถ้าจะออกเสียงให้ถูกต้องเป็น เบ่อะ-แน๊-เน่อะ ทั้งพยางค์แรกและพยางค์สุดท้ายจะปรากฏสัญลักษณ์ Ə อยู่ในสัญลักษณ์ phonetics นะคะ
นอกจากนี้ ในระดับประโยค คำที่ไม่ได้เน้นเสียงคือเป็นพวก function word เช่น article ทั้งหลาย เวลาพูดรวมๆในประโยคเราก็จะออกเสียงเป็นเสียง schwa ได้เหมือนกันนะคะ เช่น ประโยคที่ว่า This is a book. ก็จะออกเสียงว่า ดี๊ส สิส เสอะ บุ๊ค เสียง a จะกลืนไปกับเสียงท้ายของคำว่า อีส คือเสียง s กลายเป็น เสอะ ไป แม้แต่คำว่า to เอง เวลาออกเสียงก็ไม่ได้ออกว่า ทู ชัดนะคะ เช่นบอกว่า I’m going to the cinema. ประโยคนี้ก็จะเป็น แอม-โก๊-อิ่ง-เทอะ-เดอะ-ซี๊-เนอะ-เมอะ
เป็นไงกันบ้างคะ สำหรับเสียง schwa มันเจอบ่อยและเจอเยอะมากๆเลยใช่มั้ยคะในภาษาอังกฤษ ลองศึกษาเสียงนี้กันดูนะคะ เป็นประโยชน์มากๆเลยในการเรียนภาษาอังกฤษ ให้ฟังได้คล่องและพูดได้เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษา