หลักการใช้ must กับ have to ใช้ต่างกันอย่างไร

must กับ have to ใช้ต่างกันอย่างไร

หลักการใช้ must กับ have to ใช้ต่างกันอย่างไร

ทั้ง must และ have to ใช้เพื่อแสดงความจำเป็นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่มีวิธีการใช้เหมือนกันเล็กน้อยค่ะ แต่โครงสร้างประโยคในการใช้ must กับ have to เหมือนกันคือ ต้องตามด้วย verb infinitive หรือ กริยารูปธรรมดา ไม่ผัน ไม่เติม

must + verb (infinitive)
have to + verb (infinitive)

  • I must quit smoking.                  ฉันต้องเลิกสูบบุหรี่
  • I have to quit smoking.              ฉัน(จำเป็น)ต้องเลิกสูบบุหรี่

สองประโยคนี้แปลว่า ต้องเลิกสูบบุหรี่ เหมือนกัน แต่เราจะใช้ must ในกรณีที่เราคิดว่าสิ่งนั้นจำเป็นต้องทำ เป็นความเชื่อหรือเป็นความคิดของเราเองที่คิดว่ามันจำเป็นต้องทำ
แต่ have to นั้นใช้ในกรณีที่สถานการณ์เป็นตัวบังคับให้เราจำเป็นต้องทำ ซึ่งบางที่เราอาจจะไม่อยากทำ อาจจะเป็นกฎ หรือข้อบังคับให้ทำ เช่น

  • You have to stop eating salty food.
    คุณจำเป็นต้องเลิกกินอาหารรสเค็ม
    (อาจจะเป็นคำสั่งหมอที่ให้เลิกกินอาหารรสเค็ม)

ลองมาเปรียบเทียบกับการใช้ must ในประโยคข้างล่างค่ะ

  • You must stop eating salty food.
    คุณต้องเลิกกินอาหารรสเค็มได้แล้ว
    (อาจจะเป็นความคิดของผู้พูดเองว่า อีกฝ่ายต้องเลิกกินอาหารเพราะถ้ากินอาหารรสเค็มมากเกินไปจะทำให้เป็นโรคได้)
  • Must I go now?
    ฉันต้องไปตอนนี้เลยมั้ย
  • Do they have to pay the money?
    พวกเขาต้องจ่ายเงินมั้ย

*** แต่ถ้าเป็นประโยคปฏิเสธจะมองเห็นความแตกต่างได้ชัด ดังนี้ค่ะ

  • must not หรือ mustn’t แปลว่า จะต้องไม่(เป็นกฎหรือข้อบังคับที่ห้ามให้ปฏิบัติ)
  • don’t have to หรือ doesn’t have to แปลว่า ไม่จำเป็นต้อง (จะทำหรือไม่ทำก็ได้)

รูปปฏิเสธและคำถามของ have to ต้องใช้ verb to do เข้ามาช่วย จะเติม not ข้างหลังไปเลยเหมือน must ไม่ได้ ตัวอย่างประโยค เช่น

  • You mustn’t park here. It’s not allowed.
    คุณไม่ได้รับอนุญาตให้จอดรถที่นี่
  • The students mustn’t wear shoes in the classroom.
    นักเรียนจะต้องไม่ใส่รองเท้าในห้องเรียน
  • We don’t have to wear uniform on Friday.
    พวกเราไม่จำเป็นต้องใส่ชุดเครื่องแบบในวันศุกร์
  • He doesn’t have to tell me what happened. Someone has already told me.
    เขาไม่จำเป็นต้องบอกฉันก็ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีคนบอกฉันแล้ว

** สรุปคือmust กับ have to ในรูปประโยคบอกเล่าและคำถาม จะมีความหมายใกล้เคียงกันหรือต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ในประโยคปฏิเสธจะมีความหมายที่ต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ