ตอนที่ 26 : มารู้จัก Verb to be ในโครงสร้างประโยคเหล่านี้กัน

verb to be

มารู้จัก  Verb to be  ในโครงสร้างประโยคเหล่านี้กัน

Verb to be (is, am, are, was, were) เรียกได้ว่าเป็น กริยาสารพัดประโยชน์จริงๆ  เป็นกริยาช่วยก็ได้  เป็นกริยาแท้(ในความหมายว่า เป็น,อยู่,คือ) ก็ได้อีก  อะไรมันจะสรรพคุณแซ่บขนาดนี้  ก็อย่างที่บอกค่ะด้วยความที่ verb to be มันสารพัดประโยชน์  ดังนั้นการรู้จักโครงสร้างประโยคที่มักจะมี verb to be เข้ามาเกี่ยวข้องก็น่าจะเป็นการช่วยเพิ่มความแก่กล้าให้ภาษาอังกฤษเราได้มากขึ้นไปอีก…จะรอช้าอยู่ใย  มาดูกันค่ะว่าโครงสร้างประโยคที่พูดถึงนี้มีหน้าตาเป็นยังไงกันบ้าง

—- S + V.to be + Adj. —-

เป็นโครงสร้างพื้นฐานระดับรากหญ้ากันเลยทีเดียวสำหรับรูปแบบประโยคแบบนี้  ใครไม่รู้จักถือว่าเชยมาก  มี Adjective ที่ไหน  เจ้า Verb to be ก็มักจะไปเสนอหน้าที่นั่น  เช่น

  • The test was pretty hard.
    ข้อสอบยากจัง
    (มีมาคั่นกลางด้วย prettyก็ไม่ใช่อะไร  เป็นคำขยายแปลว่า “ค่อนข้าง”  นะคะ)
  • My shoes are wet.
    รองเท้าฉันเปียก

—- S + V. to be + Adv. —–

Adverb ก็มาไม่น้อยหน้า Adjective นะคะ  ใช้กับVerb to be ได้ด้วย เช่น

  • All prices are up.
    ราคาสินค้าทุกอย่างสูงขึ้น
  • The time is over.
    หมดเวลาแล้ว
  • My bicycle is outside.
    รถจักรยานฉันอยู่ข้างนอก

—- S + V. to be + Preposition + noun/pronoun —-

ตัวอย่างประโยค เช่น

  • The jacket I bought yesterday is in the wardrobe.
    เสื้อแจ้คเก้ตที่ซื้อมาเมื่อวานอยู่ในตู้เสื้อผ้า
  • Tell him I’m on the other line.
    บอกเขาว่าฉันติดสายอื่นอยู่

—- S + V. to be + to infinitive (to+V1) —-

โครงสร้างประโยคนี้อาจจะต้องแยกประเด็นออกมาดังนี้ค่ะ

  1. to be ในที่นี้เป็นกริยาแท้ แปลว่า เป็น,อยู่,คือ  และ to infinitive ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค เช่น
  • The best way to pass the exam is to study harder.
    วิธีที่ดีที่สุดที่จะสอบผ่านก็คืออ่านหนังสือให้หนักขึ้น
  1. ใช้ในการออกคำสั่ง แปลว่า “ต้อง”  เช่น
  • You are to leave now.
    คุณต้องออกเดินทางเดี๋ยวนี้เลย

—- S + V. to be + Noun/Pronoun —-

  1. to be ในโครงสร้างนี้จะมีควาหมายว่า เป็น, อยู่, คือ เช่น
  • I am not a coffee drinker.
    ฉันไม่ใช่คนชอบดื่มกาแฟ
  • You are a liar.
    คุณมันจอมโกหก
  • This bike is mine.
    จักรยานคันนี้ของฉัน

—- S + V. to be + Adj. + to infinitive —-

เราเอา to infinitive มาต่อท้าย adjective เพื่อขยายความได้ เช่น

  • It’s nice to talk to you.
    ดีใจทีได้คุยกับคุณ
  • I’m too fat to wear this dress.
    ฉันอ้วนเกินไปที่จะใส่ชุดนี้

—- S + V. to be + Adj. + Ving —-

โครงสร้างคล้ายกับด้านบน คือเป็นการขยายความ  แต่ไม่ค่อยนิยม แต่ก็จะมีอยู่ 2 คำ ที่มักจะเจอในรูปประโยคแบบนี้คือ คำว่า busy กับ  worth  เช่น

  • I was busy talking on the phone.
    ฉันกำลังยุ่งอยู่กับการคุยโทรศัพท์เลย
  • The business is worth risking.
    ธุรกิจตัวนี้คุ้มที่จะเสี่ยง

—- S + V. to be + that clause / noun clause —-

That clause หรือ noun clause (clause ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-question)  เป็นเสมือนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค  เช่น

  • The problem is that my car is broken down.
    ปัญหาคือรถฉันเสีย
  • It isn’t what you think.
    มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก

—- S + V. to be + Adj. + that clause/noun clause —-

That clause / noun clause ในที่นี้ทำหน้าที่เป็นตัวขยายความ  เช่น

  • I’m not clear how this accident happened.
    ฉันก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
  • I’m so glad that you are with me now.
    ฉันดีใจเหลือเกินที่ตอนนี้คุณอยู่กับฉัน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับโครงสร้างหลักๆน่ารู้น่าจำน่านำไปใช้ของ Verb to be  ถ้าสังเกตเจ้าของภาษาพูดจะเห็นว่าใช้แบบนี้กันเป็นส่วนใหญ่  ลองนำไปใช้ดูนะคะ ^^