คำว่า else ใช้ยังไง??
คำว่า else ปกติจะแปลว่า “อื่นๆ, อย่างอื่น” เรามักจะเห็นคำว่า else เนี่ย ตามหลังคำประเภท
- anything = anything else
- anyone = anyone else
- something = something else
- someone = someone else
- nothing = nothing else
- no one = no one else
โดยจะแปลว่า คนอื่น, สิ่งอื่น, ใครอื่น, ใครก็ตาม ซึ่งใช้เป็นสรรพนามแทนคน สัตว์ หรือสิ่งของโดยที่ไม่เจาะจงว่ามันเป็นอะไรนะคะ เช่น
- I don’t have anything else to do but wait for you.
ผมไม่มีอะไรอย่างอื่นต้องทำแล้วนอกจากรอคุณ - He always tries to blame somebody else.
เขาพยายามที่จะโทษคนอื่นๆอยู่เสมอ - Anything else?
ต้องการอะไรอื่นอีกไหม? - No, that’s all.
ไม่ครับ แค่นี้แหละครับ - Anyone else?
มีใครอื่นอีกไหม?
** แต่ถ้า else ไปตามหลัง or เป็น “or else” จะกลายเป็นคำเชื่อม (conjunction) ทันที แปลว่า “มิฉะนั้น, ถ้าเช่นนั้น, ไม่เช่นนั้น” เช่น
- We must be hurry or else we’ll miss the train.
เราต้องรีบกันแล้วล่ะไม่งั้นเราจะตกรถไฟ - This time our team really need you or else we’ll lose.
ครั้งนี้ทีมเราต้องการคุณนะ ไม่อย่างนั้นเราแพ้แน่
** else ยังใช้ในสำนวนต่างๆได้อีกด้วย เช่น
# Above all else แปลว่า “เหนืออื่นใด, เหนือสิ่งอื่นใด” ใช้พูดเพื่อเน้นความสำคัญ
- I love her smile and love to hear her laughing. Above all else, I love her.
ผมชอบรอยยิ้มเธอและชอบที่จะฟังเธอหัวเราะ และที่สำคัญเลย (เหนือสิ่งอื่นใดเลย) ผมรักเธอ
# If nothing else แปลว่า “อย่างน้อย” เช่น
- If nothing else, you really enjoy studying with her.
อย่างน้อยคุณก็สนุกที่ได้เรียนกับเธอ
…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา